ในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และญี่ปุ่น ประชาชนวงการอาหารและวงการแพทย์มีเนวโน้มในการกินวิตามินและอาหารเสริมมากขึ้น จะเห็นได้จากร้านขายอาหารเสริมมีมากมายทุกเมืองและทุกรัฐในอเมริกา แพทย์แผนปัจจุบันและนักวิทยาศาสตร์หลายคนจึงเริ่มให้ความสำคัญกับแพทย์ทางเลือก โดยใช้การรักษาด้วยสมุนไพร แนะนำการกินอาหารที่มีประโยชน์แก่ร่างกาย มีการแนะนำการกินอาหารบำรุงและอาหารเสริมต่าง ๆ และแนะนำการกินอาหารธรรมชาติที่มีสารอาหาร ใยอาหาร และวิตามิน อย่างเพียงพอ ผลปรากฎว่ามีโรคและอาการบางชนิดหายขาดได้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้กินยาแผนปัจจุบันไม่สามารถรักษาโรคและอาการเหล่านี้ได้
มนุษย์ต้องได้รับวิตามินธรรมชาติจากอาหาร
เพื่อการดำรงอยู่ของชีวิต วิตามินเป็นสารอินทรีย์เคมี (Organic) ที่เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิต วิตามินต้องประกอบไปด้วยแร่ธาตุคาร์บอนเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการทำงานของขบวนการทางเคมี ทั้งในเชิงให้เกิดพลังงาน (เผาผลาญ) และสร้างพลังงานของร่างกาย ร่างกายไม่สามารถสร้างสารวิตามินหรืออินทรีย์เคมีเหล่านี้ได้เอง (ยกเว้นบางชนิดเท่านั้นที่พอสร้างได้บางส่วน) วิตามินเป็นสารเคมีจำนวนน้อยที่ร่างกายเราต้องการเพื่อทำให้มีการเจริญเติบโต มีสุขภาพดี และมีการทำงานในกระบวนการทางเคมีในร่างกายอย่างถูกต้อง วิตามินที่ได้จากอาหารเสริมไม่ใช่อาหาร ดังนั้นจึงต้องทานอาหารด้วย ซึ่งวิตามินจะทำงานได้ดีเมื่อทานพร้อมกับอาหาร
วิตามินทำงานอย่างไร
วิตามินทำหน้าที่คล้ายหัวเทียนจุดระเบิด โดยกระตุ้นการทำงานของเอ็นไซน์ร่วมกับแร่ธาตุ เพื่อทำให้กระบวนการทางเคมีแต่ละขั้นตอนในเซลล์ของร่างกายเป็นไปอย่างสมบูรณ์ การขาดวิตามินดัวใดตัวหนึ่งจะทำให้กระบวนการเผาผลาญทางเคมีบกพร่องและมีการแสดงออกของโรคขาดวิตามินชนิดนั้น
จำเป็นหรือไม่ที่ต้องกินวิตามินเป็นอาหารเสริม
นักโภชนาการมักจะพูดเสมอว่าไม่จำเป็นต้องกินวิตามินถ้ากินอาหารครบทุกหมู่ แต่จะเป็นไปได้หรือเมื่อเราต้องกินอาหารห่อถุงพลาสติคอย่างในปัจจุบัน ซึ่งอาหารที่อยู่ในร้านขาย เมื่อมีการอุ่นและต้มบ่อยๆ ครั้งจะทำลายวิตามินไปหลายชนิด ซึ่งชนิดที่ถูกทำลายง่าย คือ A, B, และ C
การกินอาหารประเภทแป้งมาก โดยเฉพาะฟาสทฟู้ดที่กำลังนิยมกันมากในหมู่เด็ก ๆ และวัยรุ่น และถ้าหญิงวัยกลางคนรับประทานอาหารประเภทนี้ อาจมีส่วนทำให้ขาดธาตุเหล็ก และแคลเซียม นอกจากนั้นขบวนการเสื่อมของเซลล์ในร่างกายและอื่น ๆ ตามสภาพที่เป็นไป ตามธรรมชาติเมื่อมีอายุมากขึ้น การย่อยอาหารผิดปกติ รวมทั้งการดูดซึมผิดปกติในลำไส้ ก็มีส่วนทำให้เกิดการขาดสารอาหารซึ่งจะเป็นมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับการทำงานของร่างกายแต่ละคน การควบคุมการทำงานในร่างกายมาจากยีนบนโครโมโซมในเซลล์ซึ่งจะมี การหยุดทำงานหรือทำงานลดลงตามสภาวะของเวลาหรืออายุ อันเป็นผลมาจากพันธุกรรมก่อให้เกิดการทำงานผิดปกติของเซลล์ในอวัยวะต่าง ๆ เช่น การผลิตอินซูลิน ลดลงทำให้เกิดเบาหวาน
คนสูงอายุย่อมมีสภาพเสื่อมทุกระบบรวมทั้งระบบย่อยอาหารด้วย หลังจากอายุ 35 ปีแล้ว ระบบย่อยอาหารและระบบลมหายใจเสื่อมเฉลี่ยปีละ 1% นอกจากนี้คนสูงอายุที่กินอาหารได้น้อยลง ทำให้ขาดสารอาหารและวิตามินเพิ่มมากขึ้น จึงทำให้โอกาสการเกิดโรคการเสื่อมสภาพของร่างกายมีมาก ดังนั้นการกินอาหารเสริมที่มีวิตามินและเกลือแร่ครบ รวมทั้งสารอาหารจำเป็นในคนสูงอายุจะมีส่วนช่วยชลอการเกิดโรค ทำให้ร่างกายแข็งแรงและอายุยืน อาหารที่มีความจำเป็นสำหรับร่างกายซึ่งร่างกายสร้างเองไม่ได้ ต้องกินจากภายนอกรวมแล้วมี 46 ชนิด ซึ่งจัดเป็น วิตามิน 13 ชนิด และอีก 18 ชนิดเป็นเกลือแร่สำคัญที่เหลืออีก 15 ชนิดเป็นกรดอะมิโน และกรดไขมัน
เกลือแร่ที่สำคัญสำหรับมนุษย์
วิตามินจะสามารถมีปฏิกิริยาในการทำงานได้ ต้องใช้เกลือแร่เป็นตัวช่วย ถ้าปราศจากเกลือแร่วิตามินก็ทำงานได้ไม่สมบูรณ์ เกลือแร่ที่สำคัญมีอยู่ 18 ชนิด คือ แคลเซียม, คลอรีน, โคบอลท์, ทองแดง, ฟูลโอรีน, เหล็ก, แมกนีเซียม, แมงกานีส, โซเดียม, โปแตสเซียม, โมลิบดินั่ม, ฟอสฟอรัส, ซิลิเนียม, กำมะถัน, วานาเดียมและสังกะสี ส่วนที่ใช้จำนวนน้อย คือ โบรอน, ซิลิคอน, นิกเกิล และสารหนู (Arsenic) ซึ่งมีความจำเป็นสำหรับการเจริญของผนังเซลล์ วิตามินที่มาจากการสังเคราะห์แตกต่างจากวิตามินจากธรรมชาติหรือไม่ วิตามินที่มาจากธรรมชาติจะสามารถดูดซึมได้ดีกว่าและมีผลต่อร่างกายได้มาก เช่น วิตามินซี นอกจากนั้นวิตามินสังเคราะห์บางครั้งยังมีสารเคมีอื่นที่ใช้ในขบวนการผลิตปะปนมาด้วย ทำให้วิตามินนั้นมีคุณภาพด้อยลงและอาจจะทำให้มีแพ้ได้
ประโยชน์ของวิตามิน
B1
ช่วยในการย่อยอาหารโดยเฉพาะจำพวกแป้ง
ช่วยเสริมสร้างระบบประสาท กล้ามเนื้อและการทำงานของหัวใจ
B2
ช่วยทำให้ผิวหนัง เล็บและผมแข็งแรง
ช่วยในการรักษาแผลในปากและแผลมุมปาก
ช่วยบำรุงสายตา ทำให้ตาไม่เมื่อยล้าง่าย
B3
ช่วยในการดูดซึมและเผาผลาญ โปรตีน ไขมันและแป้ง
ช่วยส่งเสริมการไหลเวียนของเลือด และลดไขมันคลอเรสเตอรอลในเส้นเลือด ไทรกลิเซอร์ไรด์ ลดความดันโลหิต
เสริมสร้างให้ระบบประสาทและเซลล์สมองให้แข็งแรง และทำให้การทำงานของสมองดีขึ้น มีส่วนเสริมในการรักษาไมเกรน
เป็นตัวสำคัญในการช่วยสร้างฮอร์โมนหลายชนิด เช่น ฮอร์โมนทางเพศทั้งหญิงและชาย ฮอร์โมนต่อมหมวกไต ฮอร์โมนของต่อมไทรอยด์และอินซูลิน
ช่วยส่งเสริมการไหลเวียนของเลือดในสมอง อาจช่วยลดความเครียดและการใช้ยากล่อมประสาท
B5
ช่วยในการสร้างเซลล์ในวัยอ่อนทำให้การเจริญเติบโตของระบบประสาทเป็นไปอย่างสมบูรณ์
มีความสำคัญในการทำงานของต่อมหมวกไต ช่วยในการผลิตฮอร์โมนตอบสนองเวลาเกิดความเครียดทั้งทางร่างกายและจิตใจ
เป็นตัวหลักในการสร้างสารเกี่ยวกับภูมิป้องกันของร่างกาย และช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดง
B6
เป็นตัวสำคัญในการช่วยสร้างระบบภูมิต้านทานของร่างกายและสร้างเม็ดเลือดแดง
ช่วยลดอาการคลื่นไส้อาเจียนที่เกิดจากการแพ้ท้องระหว่างตั้งครรภ์
ช่วยสังเคราะห์สารเคมีในสมองเกี่ยวกับการทำงานของเส้นประสาทความนึกคิดและความจำ
ลดอาการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อในตอนกลางคืนและอาการของปลายเส้นประสาทอักเสบ
B12
ช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดง ซึ่งเป็นผลในการป้องกันโรคโลหิตจาง
ช่วยลดอาการกระสับกระส่าย เนื่องจากอาการว้าวุ่นทางจิตใจ
ช่วยประสานและบำรุงการทำงานของระบบประสาทและการสร้างสารหุ้มเส้นประสาท
ช่วยปรับปรุงระบบความทรงจำ และมีการทำงานของสมองได้ดีขึ้น
ถ้าทานวิตามิน บี 12 ร่วมกับวิตามินบีรวมจะมีส่วนช่วยเรื่องการปวดประจำเดือนในระหว่างหรือก่อนมีประจำเดือน
C
ช่วยสร้างภูมิต้านทานให้ร่างกาย โดยเป็นสาระสำคัญในเม็ดเลือดขาวในการที่จะกำจัดเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย ช่วยป้องกันไวรัสและเชื้อแบคทีเรียที่เข้าสู่ร่างกาย
ช่วยลดปริมาณาคลอเรสเตอรอลในเลือกและเพิ่ม HDL
ทำให้แผลหายเร็ว เช่น แผลถูกไฟไหม้ ช่วยเร่งให้แผลหลังการผ่าตัดประสานและหายได้เร็วขึ้น
ช่วยในการทำงานของเม็ดเลือดขาวชนิดหนึ่ง ซึ่งคอยกำจัดเซลล์ที่ผิดปกติที่เกิดขึ้นภายในร่างกาย เช่น มะเร็ง
ช่วยลดสารที่จะทำให้เกิดอาการแพ้ภายในร่างกาย ป้องกันการเกิดโรคภูมแพ้เป็นตัวประกอบสารเคมีที่สำคัญในเซลล์สมอง ช่วยการทำงานของระบบประสาทและความนึกคิด
© 2009 MySpirulina.NET All Rights Reserved.
Joomla Templates designed by Web Hosting